หากวันนี้ชีวิตของคุณนั้นทำอะไรก็แย่ไปหมดทุกอย่ าง วันนี้เราจะพาคุณไปสวดมนต์ แผ่เมตต าให้กับคนที่คิดไม่ดีกับคุณ หรือเจ้าก ร ร มนายเ ว รของคุณ กับบทความ 6 วิ ธีแผ่เมตต า ให้กับเจ้าก ร ร มนายเ ว ร เปิดทางให้ชีวิตของคุณดีขึ้น ไปดุกันว่าการสวดแผ่เมตต า นั้นทำอย่ างไรบ้าง
เมตต า คือ ความปรารถนาดีต่อผู้อื่น มีไมตรีจิตต่อคนและสั ต ว์ทั้งหล า ยทั่วหน้า จัดเป็นแหล่งเกิดแห่งความสุขอีกอย่ างหนึ่งทั้งแก่ตนเองและผู้อื่นผู้มุ่งเจริญในธรรมพึงหมั่นเจริญอบรมเมตต า ให้เกิดในใจอยู่เสมอ เพราะเมตต า กรุณาเป็นที่อยู่อันประเสริฐของใจ ( พรหมวิหารธรรม )
วิธีเจริญเมตต า พรหมวิหาร
ผู้จะเจริญเมตต า พรหมวิหาร พึงอยู่ในที่สงัด ( ถ้าเป็นไปได้ ) แม้ไม่ได้ที่สงัดก็เจริญเมตต า ได้ แต่อาจทำได้เพียงขณิกสมาธิ ( ความสงบชั่ วขณะ ) เมื่อเตรียมตัวพร้อมแล้ว พึงพิจารณาถึงโทษของโทสะ และพิจารณาให้เห็นคุณของเมตต า ทำจิตให้อ่อนโยน แล้วแผ่เมตต า ถึงตนเองก่อนว่า ‘ขอเราจงมีความสุข ปราศจากทุ ก ข์เถิด’
ทั้งนี้เพื่อเอาตนเป็นพย านว่า เรารักสุขเ ก ลี ย ดทุ ก ข์ฉันใด คนอื่น สั ต ว์อื่นก็รักสุขเ ก ลี ย ดทุ ก ข์ฉันนั้นต่อจากนั้น พึงแผ่เมตต า ไปถึงท่านผู้มีอุปการคุณ เช่น มารดา บิดา ครู อาจารย์ เป็นต้น แล้วแผ่ไปยังคนที่ตนรัก คนที่เฉยๆ
และคนที่เป็นศัตรูคู่เวรต่อกัน ในการแผ่เมตต า ให้ศัตรูคู่เวรนั้น อาจมีอุปสรรคมาก ย ากที่จะทำใจให้ละมุนละไมได้ พอนึกถึงคนเช่นนั้น ความเคียดแค้นชิงชังจะเกิดขึ้นเสียก่อน ถ้าเป็นดังนั้น พึงปฏิบัติดังนี้ คือ
1 ระลึกถึงเนือง ๆ ซึ่งพระโอวาทของพระศาสดาที่ตรัสถึงโทษของความโ ก ร ธและความพย าบาท ถ้ายังไม่ห า ยพึงปฏิบัติในข้อ 2
2 พึงระลึกถึงพระจริย าของพระศาสดาทั้งในอดีตและปัจจุบันที่ทรงอ ดทน อ ดกลั้น ถ้ายังไม่ห า ยพึงทำต ามข้อ 3
3 พึงระลึกถึงความสัมพันธ์กันในอดีตระหว่างที่ท่องเที่ยวอยู่ในสังสารวัฏว่าอาจเคยเป็น มารดาบิดาเป็นต้นกัน มา ถ้ายังไม่ห า ยโ ก ร ธเ ก ลี ย ดพึงปฏิบัติต ามข้อ 4
4 พึงระลึกถึงอานิสงส์แห่งเมตต า 11 ประการที่พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้ ถ้ายังไม่ห า ยพึงปฏิบัติต ามข้อ 5
5 แยกธาตุ เช่น เราโ ก ร ธเ กลียดอะไรเขา คนทุกคนเป็นประมวลแห่งดิน น้ำ ไฟ ลมเราเ ก ลี ย ดอะไร เ ก ลี ย ดดินหรือน้ำ ไฟหรือลม เป็นต้น ถ้ายังไม่ห า ยพึงปฏิบัติต ามข้อ 6
6 พึงให้ของแก่เขา หรือรับของจากเขา ก็ทำให้จิตใจอ่อนโยนลงได้
อานิสงส์ของเมตต า
ผู้เจริญเมตต า พึงระลึกถึงอานิสงส์ของเมตต า บ่อยๆ และแผ่เมตต า ไปในสรรพสั ต ว์ ให้ระลึกถึงอานิสงส์ของเมตต า ต ามที่พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้แต่ผู้ที่เจริญเมตต า แล้วจะได้อานิสงส์ 11 ประการนี้ จะต้องเป็นเมตต า เจโตวิมุติ คำว่า ‘เจโตวิมุติ’
หมายถึงว่า เป็นอัปปนา คำว่า ‘อัปปนา’ คือได้ถึงขั้นฌาน ถ้าได้เจริญเมตต า จนถึงได้ฌานเพราะมีเมตต า เป็นอารมณ์ ก็จะได้อานิสงส์ 11 ประการ ครบถ้วนเต็มรูปเต็มบริบูรณ์ ถ้าเจริญเมตต า ไม่ถึงฌาน เจริญเมตต า อย่ างคนธรรมดา
จะได้อานิสงส์เหมือนกัน แต่อานิสงส์จะเพลาลง ไม่เต็มรูป เหมือนกับว่าเรามีคุณสมบัติพร้อม ก็จะได้อานิสงส์พร้อม ถ้ามีคุณสมบัติไม่พร้อม อานิสงส์ที่ได้ก็กระพร่องกระแพร่งหน่อย แต่ก็ได้ต ามสมควรแก่การปฏิบัติ
อานิสงส์ของเมตต า 11 ประการ
1 ไม่ฝันร้ า ย
2 หลับเป็นสุข
3 ตื่นเป็นสุข
4 เป็นที่รักของอมนุษย์
5 เป็นที่รักของมนุษย์
6 ไฟก็ต าม ย าพิ ษก็ต าม ศัสตราอาวุธก็ต าม จะไม่กล้ำกราย จะไม่ทำร้ า ย
7 เทวดาทั้งหล า ยย่อมรั ก ษ า
8 ผู้มีเมตต า ย่อมมีสีหน้าผ่องใส
9 ผู้มีเมตต า จิตย่อมเป็นสมาธิได้เร็ว
10 ถ้าไม่ได้บรรลุธรรมที่สูงขึ้นไป ก็จะได้ไปสู่พรหมโลก
11 ไม่หลงต าย ( ทำกาลกิริย า )
คำแผ่เมตต า สำหรับตนเอง
อหํ สุขิโต โหมิ นิทฺทุกฺโข อเวโร อพฺย าปชฺโฌ อนีโฆ สุขี อตฺต า นํ ปริหรามิ
ขอข้าพเจ้าจงถึงความสุข ปราศจากความทุ ก ข์ ไม่มีเวร ไม่มีภั ย ไม่มีความคับแค้นใจจงมีความสุขกายสุขใจ รั ก ษ าตนให้พ้นจากทุ ก ข์ภั ยทั้งปวงเถิด ฯ
คำแผ่เมตต า ไปสู่ผู่อื่น
สพฺเพ สตฺต า สุขิต า โหนฺตุ นิทฺทุกฺขา อเวรา อพฺย าปชฺฌา อนีฆา สุขี อตฺต า นํ ปริหรนฺตุ ฯ
ขอสั ต ว์ทั้งหล า ยทั้งปวง จงถึงความสุข ปราศจากความทุ ก ข์ ไม่มีเวร ไม่มีภั ย ไม่มีความคับแค้นใจจงมีความสุขการสุขใจ รั ก ษ าตนให้พ้นจากทุ ก ข์ภั ยทั้งปวงเถิด ฯ
คำแผ่เมตต า แบบทั่วไป
สพฺเพ สตฺต า สั ต ว์ทั้งหล า ยทั้งปวงที่เป็นเพื่อนทุ ก ข์ เกิดแก่เ จ็ บต ายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
อเวรา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่ าได้มีเวรแก่กันและกันเลย
อพฺย าปชฺฌา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่ าได้พย าบาทเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
อนีฆา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่ าได้มีความทุ ก ข์กายทุ ก ข์ใจเลย
สุขี อตฺต า นํ ปริหรนฺตุ จงมีความสุขกายสุขใจ รั ก ษ าตนให้พ้นจากทุ ก ข์ภั ยทั้งสิ้นเถิด ฯ
ที่มา deedayfashion