เมื่อบ้านเราอยู่ในช่วงของเ ศ ร ษ ฐ กิ จไม่ดี ทำอะไร ลงทุนอะไรไปก็มีแต่เรื่องย ากที่จะประสบความสำเร็จได้ วันนี้เราจะพาคุณไปเรียนรู้การอยู่รอ ด เอาตัวเองให้อยู่ในสังคมได้ กับบทความ 7 วิธี ปรับตัวเองให้อยู่รอ ดได้ ในช่วง เ ศ ร ษ ฐ กิ จไม่ดี ช่วงนี้ ไปดูกันว่าจะมีวิธรการปรับตัวแบบไหนบ้าง
1 สร้างนิสัยรักการเก็บออม
สำหรับผมแล้วเป็นคนที่ชอบออมเงิน และมีวิธีการในการออมดังนี้ครับ ถ้ามีรายได้เข้ามา ผมจะแบ่งเก็บออมไว้เลย 10-20 % จากนั้น เวลาที่เราได้รับเงินโบนัสหรือส่วนลดเมื่อซื้ อสินค้า รายได้เสริมและรายได้พิเศษต่างๆ ผมก็จะเก็บไว้เป็นเงินออมและเป็นเงินทุนสำรอง
ไว้ใช้จ่ายในย ามฉุกเฉินครับ แรกๆมันก็อาจจะย ากนิดหน่อย ตรงที่เราต้องมีสติควบคุมจิตใจของตนเอง และมีวินัยในการใช้เงิน มากขึ้น แต่พอทำไปสักพักเราก็จะเริ่มติ ดเป็นนิสัย จนทุกวันนี้ผมก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องย ากอีกต่อไปแล้ว ในช่วงที่ของแพง เ ศ ร ษ ฐ กิ จ ไม่ดี การประหยัดมากจนเกินไปก็อาจจะส่ งผ ลเสี ย
กับสุขภาพกายและจิตได้ ดังนั้นเราจึงควรดำรงตนบนพื้นฐานแห่งความพอดี เดินทางสายกลาง ไม่โลภมาก ไม่ฟุ่มเฟือย หรือขี้เหนียวจนเกินไป ช่วยเหลือคนรอบข้างที่ต กทุ กข์ได้ย ากบ้าง และรู้จักการใช้ชีวิตบนความไม่ประมาทในทุกๆเรื่อง ไม่ว่า เ ศ ร ษ ฐ กิ จ จะเป็นแบบไหน หากว่าเราได้สร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตนเองแล้ว ย่อมผ่ านพ้นวิกฤตที่เ ลวร้ ายนี้ไปได้
2 นำของเก่ามาทำเป็นของใหม่
สำรวจดูในบ้านบ้างครับว่าสิ่งของชิ้นไหนที่ยังพอใช้ได้ แต่สภาพเก่าไปบ้างก็ไม่เป็นไร นำมาซ่อมแซมหรือดัดแปลง ให้มันใช้งานได้หลากหล า ยขึ้น จะช่วยให้เราประหยัดไม่ต้องเปลืองตังค์ซื้ อ แถมยังได้ของใหม่ที่ทำขึ้นเองด้วยครับ
3 หารายได้เสริม
จากวันว่างหรือวันหยุดสุดสัปดาห์ ช่วยๆกันในครอบครัวครับ พ่อ แม่ ลูก ลองคิดว่า จะช่วยกันทำอย่ างไร เพื่อให้มีรายรับเพิ่มเข้ามา อาจจะช่วยกันทำขน มหรือทำอาหาร ,นำผักที่ปลูกไปข า ยที่ตลาด หรือคุณแม่บ้านอาจจะมีอาชีพเสริม เช่น การเย็บปักถักร้อย ทำตุ๊กต า ทำงานฝีมือ แล้วให้ลูกๆช่วยเรื่องการถ่ายภาพจัดต กแต่ง ลงโพสต์ข า ยใน โซเชี ยลต่างๆ เป็นต้น นอ กจากนี้ ยังมีอาชีพเสริมอีกมายมาย ที่ให้เลือ กต ามความถนัดและต ามความสาม าร ถของแต่ละคน อย่ าง รับสอนพิเศษ รับเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ นักแปลภาษา เป็นไกด์ทัวร์นำเที่ยวช่วงเทศก าลและวันหยุด เป็นต้น
4 ทำบัญชีรายรับรายจ่ายประจำวัน
หล า ยคนอาจจะคิดว่า การทำบัญชีนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเราเลย ที่จริงแล้วมีผลนะครับ บัญชีทำให้เรารู้ว่า เรามีรายรับอะไรเท่าไหร่บ้าง มีรายจ่ายหมด ไปกับสินค้าบริการประเภทไหนบ้าง และเรามีภาระที่ต้องชำระค่าอะไรบ้าง สิ่งเหล่านี้เป็นเหมือนเครื่องเ ตือนสติ ไม่ให้เราใช้จ่ายเงินจนเกินตัว โดยไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ เมื่อเราเห็นภาพรวม ของการเงินของเราแล้ว ก็จะทำให้เรามีการวางแผนทางการเงินที่ดีขึ้นได้ โดยเฉพาะใครที่อย ากมีเงินออมตอนสิ้นเดือนทุกๆเดือนแล้วล่ะก็ อย่ าลืมจดบันทึกและแบ่งเงินเก็บออมไว้เพื่ออนา คตกันบ้างนะครับ
5 รู้จักประมาณตนในการใช้จ่าย
ก่อนที่จะควักเงินออ กจากกระเป๋าแต่ละที ควรคิดให้ดีดีก่อนครับว่า สิ่งที่เรากำลังจะแลกมานั้นมันมีความจำเป็น มากน้อยเพียงใด ถ้าสิ่งที่เกี่ยวกับเรื่องปากท้อง อย่ างข้าวส าร อาหารแห้ง ผัก ผลไม้ น้ำดื่ม ฯลฯ
ของแบบนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นในการดำรงชีพ หล า ยครอบครัวอาจไว้จะมีซื้ อมาตุนไว้ก็ถือว่า เป็นไอเดียที่ดี ( แต่ร ะวังของหมดอายุด้วยนะครับ ) ส่วนสิ่งของที่เป็นพวกเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย กระเป๋า รองเท้า สินค้าไอทีต่างๆ พวกนี้อาจจะต้องคิดสักหน่อยก่อนซื้ อ เพราะบางอย่ างก็อาจจะไม่จำเป็น
6 หัน มาผลิตเพื่อบริโภคภายในครัวเรือน
หากที่บ้านไหนมีพื้นที่ว่างๆ สนามหญ้าหลังบ้านหรือหน้าบ้านเล็กๆ อาจจะลองนำเอา เมล็ดพันธุ์ผักปลอ ดส ารพิ ษต่างๆไปปลูกดูดั่งคำพูดที่ว่า กินทุกอย่ างที่ปลูกและปลูกทุกอย่ างที่กิน จะช่วยให้เราประหยัดไม่ต้องซื้ อผักจากตลาด แถมยังจะได้ผักที่สดสะอาดมั่นใจได้ว่า
ปลอ ดภั ยเพราะเราปลูกด้วยตนเอง แต่ถ้าใครที่อยู่บ้านเช่าตึกแถว คอนโด อาพาต์เม้น ต่างๆ อาจจะไม่ค่อยมีพื้นที่สักเท่าไหร่ แนะนำให้ลองหาอะไรมาดัดแปลงเป็นกระบะ หรือ กระถาง ใส่ดิน ปลูกผักห้อยวางต ามระเบียง เพียงเท่านี้ก็จะได้ผักสวนครัว แบบกระถางห้อยกินได้แล้วครับ
7 โปรโมชั่นดีดี
ถ้าจะซื้ ออะไรสักอย่ างแล้วเลือ กซื้ อที่มีรายการส่วนลดด้วยนั้น จะช่วยเซฟเงินในกระเป๋าของเราได้บ้าง หรือถ้าใครที่ใช้จ่ายผ่ านบั ตรเครดิตเป็นประจำ ก็จะมีโปรโมชั่นเสริมต่างๆมากมาย เช่นสะสมคะแนนเพื่อแลกรับของรางวัลและส่วนลด ฟรีค่าที่พัก ค่าเดินทางค่าเครื่องบิน ต ามแต่ละประเภทของบัตรและสินค้าที่ร่วมรายการ
ที่มา 108resources